โรคมะเร็งเต้านม: สัญญาณอันตราย ที่แสดงถึงการเป็นมะเร็งเต้านม

โรคมะเร็งเต้านม: สัญญาณอันตราย ที่แสดงถึงการเป็นมะเร็งเต้านมและความสับสนในการวินิจฉัยอาการ

 

การวินิจฉัยความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับทรวงอก ผู้วินิจฉัยจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความเข้าในเรื่องมะเร็งเต้านมเป็นอย่างดีและรู้ถึงความแตกต่างระหว่างสัญญาณอันตรายที่แสดงถึงการเป็นมะเร็งเต้านมที่แท้จริงกับอาการผิดปกติที่มีสาเหตุมาจากสิ่งอื่น เนื่องจากการฟังข้อมูลจากคนที่เป็นมะเร็งเต้านมมาก่อนบวกกับการขาดความเข้าใจเกี่ยวกับมะเร็งเต้านมที่ดีพอและความวิตกกังวลที่มีอยู่เป็นทุนเดิม คนจำนวนไม่น้อยเกิดความสับสนจนนำไปสู่การเข้าใจผิด และความวิตกกังวลที่ดูเหมือนว่าจะมีมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

รู้สึกร้อนที่เต้านมข้างใดข้างหนึ่ง

โดยทั่วไปอาการร้อนที่เต้านมข้างใดข้างหนึ่งมิใช่สัญญาณของมะเร็งเต้านม แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเพื่อความมั่นใจและช่วยผ่อนคลายความวิตกกังวลที่มีอยู่ การเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ชำนาญการน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดแพทย์เป็นผู้ที่รู้ดีที่สุดว่าสัญญานของมะเร็งเต้านมที่แท้จริงเป็นอย่างไรและด้วยปัจจัยทางร่างกายที่คุณเป็นอยู่แพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยว่าควรทำอย่างไรหากคุณมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านมจริง

อย่างไรก็ตามการจะไม่ให้คุณวิตกกังวลนั้นคงเป็นไปได้ยาก แต่อย่างน้อยก็ไม่อยากให้คุณหวาดกลัวมากจนไม่กล้าไปขอคำแนะนำจากแพทย์ เพราะความวิตกกังวลไม่อาจทำให้ความสงสัยที่มีอยู่ได้รับการให้กระจ่างชัดแต่อย่างใดในทางกลับกันความเครียดที่ทวีมากขึ้นคือตัวบ่อนลายสุขภาพและการงานของคุณแพทย์คือเพื่อนที่ดีที่สุดที่เต็มใจให้ความช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่หากมีอาการผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น

คลำพบซีสต์จำนวนมากในเต้านม

โดยทั่วไปแล้วซีสต์เพียงอย่างเดียวไม่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมให้มากขึ้นแต่เมื่อใดก็ตามที่เนื้อเยื่อเต้านมได้รับการกระตุ้นมากเกินไป และสร้างเซลล์ไขมันจำนวนมากจนทำให้เต้านมมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าปกติ ความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมของคุณจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้อาจเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่มีซีสต์จำนวนมากหรืออาจเกิดขึ้นแทนที่ซีสต์ที่ถูกจำกัดออกไป ถูกต้องทีเดียวที่ซีสต์อาจทำให้การตรวจหาก้อนเนื้อในเต้านมดำเนินไปได้ยาก.เนื่องจากมันทำให้คลำหาได้ลำบากมากขึ้น.สำหรับผู้หญิงที่มีซีสต์จำนวนมากควรเข้ารับการตรวจ แมมโมกราฟี และอัลตราซาวด์ และเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างสม่ำเสมอเพื่อทำการตรวจร่างกาย หรือกำจัดซีสต์ด้วยการใช้เครื่องดูดหรือทำอัลตราซาวด์เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่อยู่ในเต้านมของคุณนั้นเป็นเพียงซีสต์ การอัลตราซาวด์จะช่วยทำให้คุณแยกความแตกต่างระหว่างซีสต์และก้อนเนื้อที่เป็นมะเร็งเต้านมได้ หากพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งเต้านมจะได้หาวิธีรักษาได้อย่างทันท่วงทีก่อนที่จะสายเกินไป

เต้านมมีขนาดใหญ่ขึ้น และมีอาการบวมแดง

สัญญาณอันตรายที่แสดงถึงโรคมะเร็งเต้านมที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่ การมีก้อนเนื้อบวมนูนในเต้านม เต้านมมีรอยบุ๋ม,หรือก้อนเนื้อหนา ๆ ขึ้นเฉพาะจุดใดจุดหนึ่ง. ในขณะที่อาการบวมหรือมีสีแดงของเต้านมเป็นสัญญาณของมะเร็งเต้านมที่ไม่ค่อยพบบ่อยเท่าใดนัก อาการเต้านมบวม,มีสีแดง,นุ่ม,หรือมีอาการเจ็บปวดที่เต้านมข้างใดข้างหนึ่งไม่ได้เป็นสัญญาณของมะเร็งเต้านมเสมอไปแต่อาจเป็นอาการที่เกิดจากการติดเชื้อของเต้านม หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกาย

เพื่อที่จะประเมินอาการผิดปกติที่คุณกำลังเป็นอยู่ นอกเหนือจากการสำรวจความผิดปกติของเต้านมด้วยตนเองแล้วการเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือเต้านมอย่างสม่ำเสมอหรือเมื่อพบความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้นกับทรวงอก เพื่อความมั่นใจก็เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรละเลย ไม่ควรทึกทักหรือรับฟังข้อมูลจากผู้อื่น เนื่องจากมีปัจจัยมากมายที่จะทำให้คน ๆ หนึ่งมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมที่แตกต่างจากคนอื่น ๆ เพื่อวินิจฉัยอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเต้านมของคุณ แพทย์อาจแนะนำให้คุณเข้ารับการตรวจ แมมโมกราฟี หรือเข้าทดสอบการเกิดมะเร็งเต้านมแบบอื่น ๆ เช่นการนำตัวอย่างเนื้อเยื่อของเต้านมไปตรวจเพื่อตรวจหาเชื้อมะเร็ง แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความผิดปกติที่คุณกำลังเป็นอยู่และความเหมาะสม

มีของเหลวไหลออกมาจากหัวนม

โดยทั่วไปแล้วการมีของเหลวไหลออกมาจากหัวนมไม่ใช่สิ่งที่จะเห็นกันได้โดยทั่วไปในผู้หญิงที่ผ่านการผ่าตัดมดลูกหรือรังไข่ทิ้งไป หากคุณมีอายุระหว่าง 48-58 ปี และมีของเหลวที่ไม่ใช่เลือดไหลออกมาจากหัวนมทั้งสองข้างเพียงเล็กน้อยและไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่รุนแรงมากไปกว่านี้ มันอาจเกิดขึ้นจากการที่ฮอร์โมนของคุณขาดสมดุล ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ มิใช่สัญญาณของมะเร็งเต้านมแต่อย่างใดแต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณมีของเหลวที่มีลักษณะคล้ายเลือดไหลออกมาจากหัวนมเพียงข้างเดียว หรือมีการเปลี่ยนแปลงใดที่รุนแรงมากกว่านี้ นั่นอาจเป็นสัญญาณอันตรายของมะเร็งเต้านม แต่อย่างไรก็ตามไม่มีทฤษฎีใดที่ถูกต้องเสมอไป ดังนั้นการพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งเต้านม เพื่อตรวจความเรียบร้อยของเต้านมอีกครั้งน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด