มะเร็งเต้านม: ปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่การเป็นมะเร็งเต้านม (ตอนที่ 1)

TAG: ,

มะเร็งเต้านม:  ปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่การเป็นมะเร็งเต้านม (ตอนที่ 1)

                แม้ว่าผู้หญิงทุกคนมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านม  แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงอีกมากที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งอาจมีความเสี่ยงมากกว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ เช่น อายุ, ครอบครัว, การใช้ฮอร์โมน,การเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ,การสูบบุหรี่,โภชนาการ,ความเครียด,หรือแม้แต่ประวัติการเป็นมะเร็งของตนเอง  การได้เข้าใจถึงความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งเต้านมของตัวเองอย่างถ่องแท้จะทำให้คุณได้เปรียบกว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ ในการหาทางป้องกันหรือลดความเสี่ยงดังกล่าวให้น้อยลงตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่จะสายเกินไป



                อายุ

                อายุเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมที่สำคัญที่สุดเมื่อเรามีอายุมากขึ้น วิถีการดำเนินชีวิตในแต่ละวันจะเป็นตัวการในการเพิ่มโอกาสให้ตัวกำหนดลักษณะทางพันธุกรรมหรือยีนส์ที่อยู่ในเซลล์มีการเติบโตที่ผิดปกติ หรือมีความผิดพลาดทางพันธุกรรมเกิดขึ้น  ซึ่งความผิดพลาดดังกล่าวจะพัฒนาขึ้นอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่ร่างกายไม่รู้ตัวและไม่สามารถรักษาความผิดพลาดนั้นได้ มีการพบว่ายิ่งผู้หญิงที่มีอายุมากขึ้นเท่าใด ความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมจะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น แต่นั่นก็มิได้หมายความว่าผู้หญิงที่มีอายุมากเท่านั้นถึงจะเป็นมะเร็งเต้านม

จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่า

                ผู้หญิงอายุระหว่าง 0-39 ปี 1 ใน 231 คนจะเป็นมะเร็งเต้านม หรือมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมน้อยกว่าร้อยละ 0.5
                ผู้หญิงอายุระหว่าง 40-59 ปี 1 ใน 25 คน จะเป็นมะเร็งเต้านม หรือมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมร้อยละ 4
                ในขณะที่ผู้หญิงอายุระหว่าง 60-79 ปี 1 ใน 15 คน จะเป็นมะเร็งเต้านม หรือมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมเกือบร้อยละ 7

                และอีกเช่นเดียวกัน หากคุณอายุยืนมากกว่านี้ โอกาสที่คุณจะเป็นมะเร็งเต้านมก็จะยิ่งมีมากขึ้น โดยพบว่าผู้หญิง 1 ใน 7 ที่มีอายุระหว่าง 80-90 ปี จะเป็นโรคหรือมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมอยู่ที่ร้อยละ 14.3 การศึกษาชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่ามะเร็งเต้านมสามารถเกิดได้กับผู้หญิงทุกวัย และอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมจะยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเรามีอายุมากขึ้น

ความตึงเครียด

ยังไม่มีการยืนยันอย่างแน่ชัดถึงความเกี่ยวข้องกันระหว่างความตึงเครียดกับการเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม แต่อย่างไรก็ตาม,เราก็มั่นใจได้ว่าการอยู่ในภาวะตึงเครียดเป็นเวลานานไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพโดยรวมอย่างแน่นอน. แม้ว่าจะไม่มีรายงานทางการแพทย์ยืนยันในสิ่งนี้ เราก็ยังสามารถรับรู้ได้ด้วยตัวเองว่าความเครียดทำให้เรารู้สึกไม่ดี นอนไม่หลับ,ท้องไส้ปั่นป่วน,ระบบขับถ่ายทำงานไม่ปกติ  และอาจล้มป่วยได้ในที่สุด ซึ่งนั่นก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้เราตระหนักได้ว่าความเครียดที่นานและมากเกินไปไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อร่างกายอย่างแท้จริง ดังนั้นเราควรจะป้องกันไม่ให้เกิดความเครียดสะสมจนทำให้อาจเกิดอาการของโรคมะเร็งเต้านมได้

 ประวัติการเป็นมะเร็งเต้านมของตัวเอง

ประวัติการเป็นมะเร็งเต้านมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้คุณกลับมาเป็นมะเร็งเต้านมได้อีกครั้ง หากคุณเคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน โอกาสที่คุณจะกลับมาเป็นอีกครั้งจะมากกว่าผู้หญิงที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยความเสี่ยงดังกล่าวจะอยู่ที่ร้อยละ 1 ต่อปี ดังนั้นหากคุณเคยเป็นมะเร็งเต้านมเมื่อ 20 ปีที่แล้ว โอกาสที่คุณจะกลับมาเป็นมะเร็งเต้านมอีกครั้งจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 20 และที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านั้นคือ,ในขณะที่ความเสี่ยงของการกลับมาเป็นมะเร็งจะเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนปี วงการแพทย์ในขณะนี้กลับยังไม่มีนวัตกรรมใดที่จะช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวให้น้อยลงได้เลย

ประวัติการเป็นมะเร็งเต้านมของคนในครอบครัว

สมาชิกในครอบครัวที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน  อาจส่งผลต่อความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งของคุณได้ อย่างไรก็ตามการมีสมาชิกในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านมก็มิได้หมายความว่าความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งของคุณจะเพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด กล่าวคือหากยายของคุณเป็นมะเร็งเต้านมเมื่ออายุ 80 ปี นั่นมิได้หมายความว่าความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมของคุณจะเพิ่มมากขึ้น. เพราะยายของคุณอาจเป็น 1 ใน 7 ของผู้หญิงที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตามการจัดอันดับความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งเต้านมที่เพิ่มขึ้นตามอายุเท่านั้น

นอกจากจะเพิ่มขึ้นตามอายุ การเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมยังเกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมจากรุ่นหนึ่งไปอีกรุ่นหนึ่งได้อีกด้วย ความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเต้านมของคุณอาจเพิ่มมากขึ้นหากคุณมีแม่ พี่สาว น้องสาว หรือลูกสาวที่เป็นมะเร็งเต้านม หรือมีสมาชิกในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม,หรือมะเร็งรังไข่  หรือมีญาติเป็นมะเร็งเต้านมที่หน้าอกทั้งสองข้าง หรือมีญาติที่เป็นมะเร็งเต้านมตั้งแต่อายุยังน้อย (น้อยกว่า 50 ปี)

นอกจากนั้น คุณอาจได้รับยีนส์ของมะเร็งเต้านมจากพ่อหรือแม่ได้เช่นกัน หากพ่อหรือแม่ของคุณมียีนส์มะเร็งเต้านมคุณมีโอกาสร้อยละ 50 ที่จะได้รับยีนส์ดังกล่าวจากพ่อหรือแม่ หากคุณโชคร้ายได้รับยีนส์มะเร็งเต้านมนั้นมาจริง ๆ ความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมของคุณจะขึ้นอยู่กับความผิดปกติที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากคนในครอบครัว กับความผิดปกติที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวของคุณเองรวมกัน และยังมีการพบว่าหากคุณได้รับยีนส์ที่มีความผิดปกติจากครอบครัว ตลอดช่วงชีวิตของคุณจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมจากร้อยละ 40-80 , แต่อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าการเป็นมะเร็งเต้านมที่เกิดจากการรับยีนส์ที่ผิดปกติจากคนในครอบครัวจะมีความรุนแรง หรือรักษาให้หายได้ยากกว่ามะเร็งที่เกิดจากสาเหตุอื่น

บทความมะเร็งเต้านมที่เกี่ยวข้อง