รายชื่ออาหารเสริมที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ตอนที่ 5

TAG:

รายชื่ออาหารเสริมที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ตอนที่ 5

Selenium

Selenium ยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Selenomethionine  และ Selenocysteine นักวิจัยเชื่อว่า Selenium มีสรรพคุณในการเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม,มะเร็งปอด,มะเร็งต่อมลูกหมาก,มะเร็งลำไส้ใหญ่,มะเร็งกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยลดอาการผมร่วง,ปวดช่องท้องและอาการเบื่ออาหาร ในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งรังไข่ที่ได้รับการบำบัดด้วยยาหรือสารเคมี
แหล่งของ Selenium ที่สำคัญ ได้แก่ ธัญพืช,อาหารทะเล, เพื่อให้ได้ประโยชน์ในการบำบัด นักวิจัยแนะนำให้ผู้ป่วยกิน Selenium วันละ 55 ไมโครกรัม หลีกเลี่ยงการกิน Selenium มากกกว่า 1,000 ไมโครกรัมต่อวัน เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอาการท้องไส้ปั่นป่วน,กล้ามเนื้ออ่อนแรง,อ่อนเพลีย,รู้สึกชา,ปวดที่เท้าและมือ ในขณะนี้กำลังมีการศึกษาถึงความเกี่ยวข้องระหว่าง Selenium และความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมกันอย่างแพร่หลาย

Omega 3 Fatty Acid

Omega 3 Faty Acid ยังเป็นที่รู้จักกันชื่อ Fish Oils, Eicosapentaenoc Acid (EPA) or Docosahexaenoic Acid (DHA) and Alpha Linolenic Acid แหล่งของกรดไขมันโอเมก้า 3 มักพบในปลาที่มีน้ำมันมาก เช่น ทูน่า,แมคเคอเรล,ซาร์ดีน,แซลมอน รวมไปจนถึงวอลนัต,เมล็ดป่าน,ถั่วเหลือง เพื่อความสะดวกและมั่นใจว่าร่างกายของคุณได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณที่เพียงพอ ในปัจจุบันได้มีการผลิตกรดไขมันในรูปของแคปซูลออกมาจำหน่ายมากมาย

นักวิจัยเชื่อว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 มีสรรพคุณในการช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม,มะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด นักวิจัยแนะนำให้กินกรดไขมันโอเมก้า 3 ประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ อย่างไรก็ตามแม้ว่ากรดไขมันโอเมก้า 3 จะมีประโยชน์ต่อการร่างกายแต่ถ้ากินมากกว่า  3 กรัมต่อวัน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดตกเลือด การมีผลข้างเคียง เช่น ท้องไส้ปั่นปั่น,ความดันโลหิตต่ำ,เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงดังกล่าว นักวิจัยแนะนำว่าการได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 ผ่านทางอาหารที่กินในแต่ละวันจะเป็นวิธีปลอดภัยที่สุด การทดลองกับสัตว์พบว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 มีความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพของยาและสารเคมีที่ใช้ในการรักษามะเร็ง เช่น Doxorubicin and Epirubicin ในการกำจัดเซลล์มะเร็งเต้านม

European Misletoe

European Misletoe ยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Eurixor,Helixor,Vysorel,Viscum Album,Iscador,Visci,Allheal,Devil’s Fuge, Drudenfuss,Hexenbesen and Issorrel เดิมทีเชื่อกันว่า European Misletoe สามารถลดอาการข้างเคียงที่เกิดจากการรักษามะเร็งด้วยยาและสารเคมี หรือการฉายรังสี

นอกจากนั้น European Misletoe ยังช่วยรักษาอาการปวดศีรษะ,การนอนไม่หลับ,และอาการผิดปกติที่เกิดในช่วงหมดระดู เพื่อที่จะได้รับประโยชน์ผู้ป่วยจำเป็นต้องฉีด European Misletoe เข้าสู่ร่างกาย มีการรายงานว่าการใช้ European Misletoe อย่างผิดวิธีจะทำให้เกิดอาการ Seizures, ความดันโลหิตต่ำ,หัวใจเต้นช้าลงและอาจรุนแรงจนทำให้เสียชีวิตได้ในที่สุด เนื่องจากยังไม่มีงานวิจัยโดยออกมากล่าวถึงประโยชน์ของ European Misletoe ที่มีต่อการรักษาหรือลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมที่น่าเชื่อถือได้อย่างแน่นอน แพทย์จึงไม่แนะนำให้ผู้ป่วยนำ European Mistetoe มาใช้

Flaxseed

Flaxseed เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Linum Usitatissimun and Linseed มีความเชื่อว่า Lignan ที่อยู่ใน Flaxseed จะจับตัวเข้ากับตัวรับฮอร์โมนเอสโตรเจนของเซลล์ และลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมให้น้อยลงได้ เพื่อที่จะรับประโยชน์ผู้ป่วยควรได้รับ Flaxseed 30-50 กรัมต่อวัน
เนื่องจาก Flaxseed มีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนอ่อน ๆ ดังนั้นผู้หญิงที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมหรือมีอาการผิดปกติที่เกี่ยวกับฮอร์โมนควรเพิ่มความระมัดระวังเมื่อต้องใช้ Flaxseed ผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ Flaxseed ได้แก่อาการท้องไส้ปั่นป่วนและภาวะ Anaphylaxis จากงานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่า เมล็ด Flaxseed ช่วยลดการเติบโตของเซลล์ให้น้อยลง อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือได้ชิ้นใดออกมากล่าวถึงประโยชน์ของ Flaxseed ที่มีต่อมะเร็งเต้านม

บทความมะเร็งเต้านมที่เกี่ยวข้อง