การออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้

TAG:


การออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้

เป็นความจริงที่ว่าทุกคนล้วนอยากมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง และหากมีสิ่งใดที่สามารถรักษาความแข็งแรงนั้นให้อยู่ได้ยาวนานที่สุด หรือสามารถเยียวยาความผิดปกติที่ร่างกายเป็นอยู่เราส่วนใหญ่ล้วนเต็มใจที่จะทำและเช่นเดียวกันผู้ที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมหรือผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมรวมไปจนถึงผู้ที่วิตกว่าตนจะเข้าข่ายคนที่มีความเสี่ยง ต่างพากันค้นหาวิธีที่จะลดความเสี่ยงดังกล่าวให้ลดน้อยลงมีหลายวิธีที่เรานิยมทำเพื่อรักษาร่างกายของเราให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ เช่น การเอาใจใส่เรื่องอาหารการกิน,การพักผ่อนให้เพียงพอ,การดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ หรือการออกกำลังกายเป็นประจำ

 
การออกกำลังกายมีผลต่อปริมาณของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ร่างกายผลิตขึ้นฮอร์โมนเอสโตรเจนมีฤทธิ์ในการกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งเต้านมมีการเติบโตมากขึ้น ในขณะเดียวกันระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงก็มีผลทำให้เซลล์มะเร็งเต้านมมีการเติบโตน้อยลงเช่นกัน ผลการวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่าผู้หญิงที่มีน้ำหนักมากเกินพิกัดหรือผู้หญิงอ้วนนอกจากจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวปกติแล้วยังมีความเสี่ยงต่อการกลับมาเป็นมะเร็งเต้านมมากกกว่าผู้หญิงที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมที่มีน้ำหนักตัวปกติอีกด้วย.เนื่องจากไขมันส่วนเกินมีผลต่อการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจนนั่นเอง และหนึ่งในหลายวิธีที่จะช่วยลดน้ำหนักหรือรักษาน้ำหนักให้คงที่นอกเหนือจากการควบคุมเรื่องอาหารการกินก็คือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

จากการวิจัยถึงความสัมพันธ์ระหว่างการออกกำลังกายกับมะเร็งเต้านมพบว่า การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยควบคุมการเพิ่มขึ้นของน้ำหนัก ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมของคุณแม้ว่าจะไม่โดยตรงก็ตาม,นอกจากนั้นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอยังช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักที่เป็นผลมาจากการรักษามะเร็งด้วยยาหรือสารเคมีและช่วยเยียวยาผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่เกิดจากมะเร็งเต้านมได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามแม้ส่วนใหญ่จะทราบถึงคุณประโยชน์ของการออกกำลังกายที่มีต่อสุขภาพและใจกันเป็นอย่างดีอย่างน้อยเราทุกคนก็รู้ดีว่าการออกแรงจะทำให้เราเหนื่อยและหลับง่ายขึ้นในตอนกลางคืน แต่ในขณะนี้ก็ยังมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เพื่อขจัดข้อสงสัยนี้, นักวิจัยของ The University of Southern California ได้ทำการสัมภาษณ์อาสาสมัครหญิงจำนวน 567 คนที่เป็นมะเร็งเต้านมแบบไม่กระจายตัว กับอาสาสมัครหญิงอีกจำนวน 616 คน ที่มีร่างกายปกติ โดยผู้หญิงทั้งสองกลุ่มมีดัชนีมวลร่างกาย,อายุ,เชื้อชาติและละแวกที่อยู่อาศัยที่คล้ายคลึงกัน นักวิจัยถามอาสาสมัครเหล่านั้นถึงประวัติการตั้งครรภ์,ประวัติการเป็นมะเร็งเต้านมในครอบครัวการบำบัดด้วยการใช้ฮอร์โมนทดแทนและพฤติกรรมในการออกกำลังกายนับจากเริ่มมีประจำเดือนไปจนถึงเวลาที่ทำการทดลองรวมทั้งปัจจัยอื่น ๆ ที่คาดว่ามีผลต่อความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม
จากการสัมภาษณ์นักวิจัยพบว่าอาสาสมัครหญิงที่มาจากครอบครัวที่มีประวัติการเป็นมะเร็งเต้านม และออกกำลังกายมากกว่า 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สามารถลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมแบบที่ไม่แพร่กระจายได้มากกว่าผู้หญิงที่ไม่ออกกำลังกายเลยถึงร้อยละ 47 ในขณะเดียวกันกลับไม่พบว่าการออกกำลังกายสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมในอาสาสมัครที่มีแม่,พี่สาว,น้องสาว,หรือลูกสาวที่เป็นมะเร็งเต้านมแต่อย่างใด

นักวิจัยจึงลงความเห็นว่า,ผู้หญิงที่มาจากครอบครัวที่ไม่มีประวัติการเป็นมะเร็งเต้านมสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมลงได้ร้อยละ 47 เมื่อออกกำลังการอย่างน้อย ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และในผู้หญิงที่มีญาติใกล้ชิดเป็นมะเร็งเต้านมน่าจะสามารถลดความเสี่ยงลงได้ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกัน แต่ประโยชน์ดังกล่าวกลับไม่ได้ถูกระบุไว้ในการทดลอง
 
นอกจากการทดลองชิ้นนี้ ยังมีงานวิจัยหลายชิ้นได้ระบุถึงประโยชน์ของการออกกำลังกายที่มีต่อความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม โดยมีใจความหลักว่าการออกกำลังการสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมและยังช่วยลดความเสี่ยงในการกลับมาเป็นมะเร็งเต้านมอีกครั้งในผู้ที่เคยเป็นมาแล้ว และเพื่อลดความเสี่ยงในการเติบโตของมะเร็งชนิดอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากมะเร็งเต้านม

แต่เนื่องจากมะเร็งเต้านมเกิดจากหลายปัจจัยมิใช่แค่การออกกำลังแต่เพียงอย่างเดียว และการมีข้อจำกัดบางประการของงานวิจัยดังนั้นแม้ว่าจะมีงานวิจัยและการทดลองหลายชิ้นพิสูจน์ให้เห็นถึงคุณประโยชน์ของการออกกำลังกายที่มีต่อมะเร็งเต้านมออกมามากเพียงใด ข้อสงสัยในประโยชน์ของการออกกำลังกายที่มีโดยตรงต่อความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมยังคงไม่ได้รับการไขให้กระจ่างเท่าที่ควร นักวิจัยและคนจำนวนมากยังคงเคลือบแคลงในความเกี่ยวข้องระหว่าง 2 สิ่งนี้อยู่ ดังนั้นเพื่อความกระจ่างนักวิจัยจึงจำเป็นต้องทำการศึกษาต่อไป

อย่างไรก็ตาม,แม้ว่าเราจะยังไม่ทราบถึงประโยชน์โดยตรงของการออกกำลังกายที่มีต่อมะเร็งเต้านมอย่างแท้จริง แต่อย่างน้อยเราสามารถเชื่อได้ว่าการออกกำลังกายบางประเภทเป็นผลดีต่อร่างกาย ช่วยควบคุมน้ำหนักทำให้เรารู้สึกดีขึ้น,ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย,ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน,และยังช่วยป้องกันเราจากโรคภัยอื่น ๆ อีกด้วย,

นักวิจัยแนะนำว่าเพื่อหลีกให้ไกลจากการเป็นมะเร็งเต้านม,ให้คุณออกกำลังกายเบา ๆ วันละนิดละหน่อยโดยรูปแบบของการออกกำลังกายต้องไม่ใช้พลังงานมาก หรือไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดขึ้นกับร่างกายเช่น การเดินช้า  ไปตามถนนในหมู่บ้านในตอนเช้าและเย็นเป็นประจำ,การทำไทชิ,หรือโยคะที่สวนสาธารณะหรือในสโมสร,หรือแม้แต่การทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นประจำ

บทความมะเร็งเต้านมที่เกี่ยวข้อง