พันธุกรรมทำให้เรามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านมสูงได้อย่างไร

TAG:

พันธุกรรมทำให้เรามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านมสูงได้อย่างไร

นักวิจัยพบว่า ผู้ที่มาจากครอบครัวที่มีประวัติการเป็นมะเร็งเต้านมไม่ว่าจะเป็นมาจากฝ่ายของพ่อหรือฝ่ายแม่จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมสูงกว่าคนอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคนคนนั้นมาจากครอบครัวที่สมาชิกฝ่ายหญิงเป็นมะเร็งเต้านมก่อนอายุ 50 ปี หรือเป็นมะเร็งที่เต้านมทั้งสองข้าง หรือเป็นมะเร็งรังไข่


ผู้หญิงที่มาจากครอบครัวที่มีประวัติการเป็นมะเร็งเต้านมจะได้รับการถ่ายทอดยีนส์ที่มีความผิดปกติที่จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมให้มีมากขึ้น ยีนส์ดังกล่าวได้แก่ BRCA1 or Breast Cancer gene one and BRCA2 or Breast Cancer gene two ยีนส์ทั้งสองจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมร้อยละ 10 และนักวิจัยยังค้นพบอีกว่า นอกจากยีนส์ทั้งสองแล้ว ยังมียีนส์อื่น ๆ อีกทำให้ความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมเพิ่มมากขึ้น เช่น ยีนส์ CHEK2 โดยมีการพบว่า ยีนส์ CHEK2 ที่ผิดปกติจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมให้มากขึ้นเป็น 2 เท่า ตัวอย่างเช่น หากเดิมทีคุณมีความเสี่ยงในการเป็นโรคอยู่ที่ร้อยละ 14 แต่หากยีนส์ CHEK2 ของคุณมีความผิดปกติหรือเกิดการกลายพันธุ์ ความเสี่ยงดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 28 ในทันที แต่อย่างไรก็ตามมีการพบว่า ในผู้หญิงบางคนที่มีทั้งยีนส์ BRCA1 or BRCA2 และยีนส์ CHEK2 ที่ผิดปกติ ยีนส์ CHEK2 กลับไม่มีส่วนเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งเต้านมแต่อย่างใด

นอกจากนั้นยังมีการค้นพบอีกว่า ยีนส์ทั้งสองมีส่วนในการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งรังไข่ได้ถึงร้อยละ 7 อีกด้วย เมื่ออายุ 70 ปี ผู้หญิงที่ได้รับยีนส์ BRCA1 or BRCA2 จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมร้อยละ 50-85 และในขณะเดียวกันความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งรังไข่ของผู้หญิงที่ได้รับยีนส์ดังกล่าวจะเพิ่มมากขึ้นร้อยละ 40-60 ในผู้หญิงที่มียีนส์ BRCA1 ผิดปกติ และประมาณร้อยละ 25 ในผู้หญิงที่มียีนส์ BRCA2 ผิดปกติ แต่อย่างไรก็ตาม การเป็นมะเร็งเต้านมทุกชนิดก็มิได้มีสาเหตุมาจากความผิดปกติในยีนส์ BRCA1 or BRCA2 เสมอไป

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณจะมียีนส์ที่ผิดปกติหรือมาจากครอบครัวที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคสูง ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้ต่างก็เป็นปัจจัยที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่คุณก็ยังสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคได้ด้วยการเข้ารับการรักษาหรือการผ่าตัดด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ความเสี่ยงในการเป็นโรคของคุณจะน้อยลง แต่การใช้ยาบำบัดอาจส่งผลข้างเคียงแบบชั่วคราว ในขณะที่การผ่าตัดจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวร การรักษาบางอย่างอาจจำเป็นต้องใช้ควบคู่กับการรักษาแบบอื่น ๆ ในขณะเดียวกันวิธีรักษาบางอย่างก็สามารถดำเนินการไปได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องอาศัยปัจจัยอื่นใดอีกเลย

บทความมะเร็งเต้านมที่เกี่ยวข้อง