วิธีตรวจหามะเร็งเต้านมสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

TAG: ,

วิธีตรวจหามะเร็งเต้านมสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

เนื่องจากผู้หญิงทุกคนมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม แต่ผู้หญิงทุกคนก็สามารถช่วยตัวเองให้ห่างไกลจากการเป็นมะเร็งเต้านม ด้วยการตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยตนเอง ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องรู้จักวิธีตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยตนเองอย่างถูกต้อง เพื่อตรวจหาสัญญาณอันตรายของมะเร็งเต้านมในระยะแรก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมสูง 

และด้วยเทคโนโลยีการตรวจมะเร็งคุณภาพสูงที่มีอยู่ในปัจจุบันเช่น การตรวจ MRI การถ่ายภาพเอกซเรย์ของเต้านมหรือการตรวจแมมโมกราฟี การตรวจอัลตราซาวด์ ทำให้การตรวจหาเซลล์มะเร็งเต้านมในระยะแรก ๆ เป็นไปได้อย่างง่ายดาย ทำให้ผู้ป่วยมีแนวโน้มที่จะได้รับการรักษาและหายขาดจากมะเร็งเต้านมมากขึ้น เป้าหมายในการตรวจมะเร็งเต้านมคือ การค้นหาสัญญาณร้ายของมะเร็งเต้านมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อจะหาวิธีรักษาที่เหมาะสมก่อนจะสายเกินไป

ขั้นตอนในการตรวจหามะเร็งเต้านมสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งเต้านมสูง

     1. ตรวจเต้านมด้วยตัวเองทุก ๆ เดือน
     2. พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจเต้านมทุกปี คุณอาจต้องเข้ารับการตรวจบ่อยครั้งขึ้นหากคุณมีปัจจัย   อื่นที่ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคที่สูงมากขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแพทย์ผู้รักษา และระดับความเสี่ยงในการเป็นโรคของตัวคุณเอง
     3. ตรวจหาแมมโมกราฟี ทุกปี โดยเริ่มตั้งแต่อายุ 40 ปี หากคุณมีญาติเป็นมะเร็งเต้านมก่อนอายุ 40 ปี แพทย์อาจแนะนำให้คุณรับการตรวจแมมโมกราฟีก่อนที่คุณจะมีอายุ 40 ปี
     4. หากคุณมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคสูง แพทย์อาจแนะนำให้คุณเข้ารับการตรวจ MRI (Magnetic Resonance Imaging) ซึ่งเป็นวิธีการตรวจหามะเร็งเต้านมในผู้หญิงที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากคุณอาจมาจากครอบครัวที่มีประวัติการเป็นมะเร็งเต้านม หรือเคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน หรือมียีนส์ที่ควบคุมการเกิดมะเร็งเต้านมที่ผิดปกติหรือกลายพันธุ์

นักวิจัยพบว่า การตรวจหามะเร็งเต้านมในผู้หญิงที่มีความเสี่ยงสูงด้วยเครื่อง MRI จะให้ผลที่แม่นยำและดีกว่าการตรวจด้วยแมมโมกราฟี หรืออัลตราซาวด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงที่มีอายุน้อยที่เต้านมมีแนวโน้มว่าจะหนาแน่น แต่อย่างไรก็ตาม MRI ก็ไม่อาจทดแทนการตรวจแมมโมกราฟีแต่อย่างใด เนื่องจากการตวจแมมโมกราฟีจัดได้ว่าเป็นวิธีการตรวจหามะเร็งที่มีประโยชน์มากในกลุ่มผู้หญิงอายุน้อยที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมันสามารถตรวจหาการจับตัวของหินปูนตามก้อนเนื้อเยื่อ ซึ่งมีสัญญาณของมะเร็งเต้านมในขั้นต้นได้ดี

แพทย์จะใช้การตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ในผู้หญิงแทบทุกวัยเพื่อตรวจหาก้อนเนื้อแข็งในเต้านม ควบคู่ไปกับการตรวจด้วยแมมโมกราฟี หากคุณมีอายุน้อยกว่า 30 ปี แพทย์จะแนะนำให้คุณตรวจอัลตราซาวด์ก่อนการตรวจแมมโมกราฟี หากคุณมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมสูงมาก ๆ แพทย์อาจแนะนำให้คุณเข้ารับการตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยวิธีเหล่านี้อย่างน้อยปีละครั้ง ตัวอย่างเช่น หากคุณมียีนส์ BRCA1 or BRCA2 ที่ผิดปกติ แพทย์อาจแนะนำให้คุณเข้ารับการตรวจ MRI และแมมโมกราฟี 2 ครั้งต่อปี โดยแพทย์อาจแนะนำให้คุณเข้ารับการตรวจด้วยแมมโมกราฟี แล้วตามด้วย MRI โดยทิ้งระยะห่างเป็นเวลา 6 เดือน

บทความมะเร็งเต้านมที่เกี่ยวข้อง