กระดูกที่หนาแน่น มีส่วนเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม?

TAG:

กระดูกที่หนาแน่น มีส่วนเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม?

มะเร็งเต้านม
            เมื่อไม่นานมานี้มีบทความบางชิ้นได้กล่าวว่า ผู้หญิงที่มีกระดูกหนาแน่นจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้หญิงทั่วไป เนื่องจากกระดูกที่หนาแน่นทำให้เกิดมะเร็งเต้านมนั่นเอง บทความนี้ได้สร้างความสับสนและความตกตะลึงให้กับคนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้หญิงที่คิดว่าการมีกระดูกที่หนาแน่นจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พวกเธอมีสุขภาพที่แข็งแรง

การรักษามะเร็งเต้านมอาจทำให้ประสาทรับกลิ่นและรสเปลี่ยนแปลง

TAG: ,

การรักษามะเร็งเต้านมด้วยยาหรือสารเคมีอาจทำให้ประสาทรับกลิ่นและรสเปลี่ยนแปลง

ผู้ป่วยจำนวนมากรายงานว่า ประสาทในการรับรู้รสและกลิ่นของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไป การรักษามะเร็งเต้านมด้วยการใช้ยาหรือสารเคมี อาจทำให้ประสาทรับรู้รสและกลิ่นของคุณเปลี่ยนแปลงไป ในช่วงนี้คุณอาจรู้สึกว่าอาหารมีรสขมและเหม็นหืนผิดปกติ และคุณอาจไม่ชอบอาการที่คุณเคยชอบบางชนิด ทั้งนี้เนื่องจากกระบวนการรักษามะเร็งเต้านมด้วยยาหรือสารเคมี จะเปลี่ยนประสาทรับร้านและกลิ่นของคุณอาจต้องใช้เวลาหลายอาทิตย์หรือหลายเดือนในการกลับมาเป็นปกติหลังจากการรักษาสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตามในช่วงแห่งการเปลี่ยนแปลงให้คุณปฏิบัติต่อไปนี้

อาการแพ้น้ำตาลแล็กโทส จากการรักษามะเร็งเต้านม

TAG:

การเข้ารับการรักษามะเร็งเต้านมด้วยการใช้ยาหรือสารเคมีอาจทำให้คุณมีอาการแพ้น้ำตาลแล็กโทสชั่วคราว ร่างกายของคุณจะไม่สามารถย่อยน้ำตาลแล็กโทส ซึ่งเป็นน้ำตาลในนมได้ เมื่อคุณมีอาการดังกล่าว คุณจะท้องเสียเกิดแก๊สขึ้นในกระเพาะอาหาร และมีอาการเป็นตะคริว เมื่อคุณดื่มนมหรือกินอาหารที่มีส่วนผสมของนมเข้าไป อย่างไรก็ตามแม้ว่าคุณจะมีอาการแพ้ดังกล่าว แต่ก็ยังสามารถกินผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมบางชนิดได้ เช่น คัสตาร์ด คอตเตจซีส หรือโยเกิร์ตที่มีปริมาณของน้ำตาลแล็กโทสน้อยกว่านม

สัญญาณอันตรายที่แสดงถึงมะเร็งเต้านมที่ผู้หญิงทุกคนควรรู้

TAG:

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงอายุใด หากพบว่าเต้านมของคุณมีสัญญาณอันตรายของมะเร็งเต้านมดังต่อไปนี้ ให้รีบปรึกษาแพทย์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

            - พบก้อนเนื้อที่มีลักษณะขรุขระและแข็งในเต้านมข้างใดข้างหนึ่ง หรือบริเวณรักแร้ หากลักษณะดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงมีรอบเดือน และยังคงอยู่เช่นนั้นแม้ว่าจะเลยช่วงเวลานั้นมาแล้วในผู้หญิงที่อายุยังน้อย และหากลักษณะเช่นนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เคยเป็นมาก่อนกับเต้านมเพียงข้างเดียวในผู้หญิงที่มีอายุมากแล้ว

วิธีตรวจเต้านมเพื่อหาโรคมะเร็งเต้านม ด้วยตัวเองอย่างง่าย

TAG:

วิธีตรวจหาโรคมะเร็งเต้านม ด้วยตัวเองอย่างง่าย

การตรวจหามะเร็งเต้านม
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้หญิงตรวจเต้านมอย่างน้อยเดือนละครั้ง ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตรวจเต้านมคือ 5-7 วันหลังมีประจำเดือนวันสุดท้าย เนื่องจากช่วงนี้เต้านมจะอ่อนนุ่ม แต่เพื่อความแน่ใจว่า ปราศจากสัญญาณอันตรายของมะเร็งเต้านมอย่างแน่นอน คุณอาจให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญตรวจเต้านมให้ก็ได้ โดยควรเริ่มตรวจตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป และควรตรวจทุก ๆ 3 ปี ส่วนผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ควรให้แพทย์ตรวจเต้านมทุก ๆ ปี แต่เพื่อความปลอดภัยที่คุณสามารถทำให้กับตัวเองได้ การตรวจเต้านมด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอก็เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรละเลยโดยให้คุณปฏิบัติดังต่อไปนี้

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม ตอนที่ 5 (จบ)

TAG:

โรคมะเร็งเต้านม

ผู้หญิงสูงอายุเท่านั้นที่จะเป็นมะเร็งเต้านม

จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่า เพศหญิงอายุระหว่าง 0 (แรกเกิด) – 39 ปี 1 ใน 231 คน จะเป็นมะเร็งเต้านมหรือมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคน้อยกว่าร้อย 0.5 เพศหญิงอายุระหว่าง 40-59 ปี 1 ใน 25 คน จะเป็นมะเร็งเต้านมหรือมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้อยละ 4 ในขณะที่เพศหญิงอายุระหว่าง 60-79 ปี 1 ใน 15 คน จะเป็นมะเร็งเต้านม หรือมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเกือบร้อยละ  7 และเช่นเดียวกัน หากคุณอายุยืน โอกาสที่คุณจะเป็นมะเร็งเต้านมก็จะยิ่งมีมากขึ้น โดยพบว่าผู้หญิง 1 ใน 7 ที่มีอายุระหว่าง 80-90 ปี จะเป็นโรคหรือมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมอยู่ที่ร้อยละ 14.3 การศึกษาชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่า มะเร็งเต้านมสามารถเกิดได้กับผู้หญิงทุกวัย และอัตราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อเราอายุมากขึ้น

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม ตอนที่ 4

TAG:

การบำบัดด้วยการฉายรังสีจะทำให้ผิวหนังมีกัมมันตภาพรังสีสะสมอยู่

            หากคุณบำบัดด้วยการฉายรังสีภายนอก คุณจะไม่มีกัมมันตภาพรังสีสะสมอยู่ในร่างกายแต่อย่างใด รังสีที่คุณได้รับจะเข้าสู่เนื้อเยื่อของคุณในทันทีทันใด โดยจะไม่มีรังสีใดค้างอยู่ที่ผิวหนังของคุณเลยแม้แต่น้อย เมื่อคุณกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ คุณจึงมั่นใจได้ว่า เพื่อนร่วมงานหรือสมาชิกในบ้านของคุณจะไม่ได้รับกัมมันตภาพรังสีจากตัวคุณอย่างแน่นอน แต่ในกรณีที่คุณได้รับการบำบัดด้วยการใช้รังสีภายใน เมื่อการบำบัดได้สิ้นสุดลง ร่างกายของคุณจะสามารถแผ่กัมมันตภาพรังสีออกมา เนื่องจากวัตถุที่เป็นกัมมันตภาพรังสียังคงอยู่ภายในตัวคุณ เมื่อคุณได้รับการบำบัดด้วยวิธีนี้ คุณจะถูกแยกให้อยู่แต่ในห้องส่วนตัวในโรงพยาบาลเท่านั้น

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม ตอนที่ 3

TAG:

หากเป็นมะเร็งเต้านม จะต้องเสียชีวิตในที่สุด

            จากการศึกษาพบว่า ร้อยละ 80 ของผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านม ไม่มีอาการที่แสดงให้เห็นว่าเชื้อมะเร็งได้แพร่กระจายจากเต้านมไปยังเซลล์หรืออวัยวะข้างเคียงแต่อย่างใด และยิ่งไปกว่านั้นร้อยละ 80 ของผู้ป่วยเหล่านี้จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกอย่างน้อย 5 ปี แต่โดยส่วนใหญ่จะมีชีวิตอยู่นานกว่านั้น และมีผู้ป่วยอีกจำนวนไม่น้อยที่มีอายุยืน แม้แต่ผู้ป่วยที่เชื้อมะเร็งมีการแพร่ไปสู่เซลล์หรืออวัยวะข้างเคียง  ก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกเป็นเวลานาน และที่น่ายินดีไปกว่านั้นคือ วิทยาการทางการแพทย์ในการต่อสู้กับมะเร็งเต้านมในปัจจุบันมีการพัฒนามากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ซึ่งหมายความว่า ผู้ป่วยจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม ตอนที่ 2

TAG:

ผู้หญิงที่มีอายุน้อยจะมีอาการคลื่นไส้จากการรักษามะเร็งเต้านมด้วยยาหรือสารเคมีมากกว่าผู้หญิงที่มีอายุมาก

            เมื่อรักษามะเร็งด้วยยาหรือสารเคมี ผู้หญิงอายุน้อยจะมีอาการคลื่นไส้มากกว่าผู้หญิงอายุมาก จากการศึกษาพบว่ายิ่งคุณมีอายุน้อยเท่าใด แนวโน้มที่คุณจะมีอาการคลื่นไส้จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากสมองของผู้หญิงที่อายุยังน้อยจะมีสมองส่วนของความรู้สึกคลื่นไส้ขนาดใหญ่กว่าผู้หญิงที่มีอายุมาก และยิ่งคุณมีอายุมากเท่าใด สมองสั่งการส่วนนั้นจะยิ่งลดขนาดลงเรื่อย ๆ

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม ตอนที่ 1

TAG:

ตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเองก็เพียงพอแล้ว

การตรวจเต้านมด้วยตัวเองทุกเดือน คือวิธีที่ดีที่สุดในการตรวจหามะเร็งเต้านม การตรวจเต้านมด้วยตัวเองทุกเดือนเป็นหนึ่งวิธีที่ดีในการตรวจหาความผิดปกติหรือสัญญาณอันตรายที่เกิดจากมะเร็งเต้านมที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันตัวเองจากมะเร็งเต้านม อย่างไรก็ตาม การตรวจเต้านมด้วยวิธีดังกล่าวก็มิใช่วิธีที่ดีที่สุดในการสำรวจหามะเร็งเต้านม วิธีการตรวจหามะเร็งเต้านมที่สามารถเชื่อถือได้คือ การตรวจด้วยวิธีแมมโมกราฟีที่ใช้เทคโนโลยีสูง มีการพบว่าประมาณร้อยละ 25 ของมะเร็งเต้านมจะตรวจพบด้วยวิธีตรวจเต้านมด้วยตัวเอง ในขณะที่ร้อยละ 35 ของมะเร็งเต้านมจะตรวจพบด้วยวิธีแมมโมกราฟี และร้อยละ 40 ของมะเร็งเต้านมจะตรวจพบด้วยวิธีตรวจเต้านมด้วยตัวเองควบคู่กับวิธีแมมโมกราฟี นอกจากนั้นเนื่องจากในแต่ละเดือนเต้านมของคุณจะมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีรอบเดือน และการเปลี่ยนแปลงในแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น ในขณะที่เต้านมบางคนอาจนิ่มและง่ายต่อการสำรวจ เต้านมอของคุณอาจแข็งตลอดเวลาจนยากแก่การตรวจด้วยตัวเอง ดังนั้นเพื่อความแน่ใจ นอกจากการตรวจเต้านมด้วยตัวเอง คุณควรเข้ารับการตรวจด้วยวิธีแมมโมกราฟีอย่างสม่ำเสมอ

มะเร็งเต้านมในหญิงสาว กับหญิงที่มีอายุมากกว่ามีความรุนแรงไม่แตกต่างกัน

TAG:

   
เดิมทีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยมีความเชื่อว่า มะเร็งเต้านมในหญิงสาวที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี จะมีความรุนแรง และกระจายตัวมากกว่าผู้หญิงที่อายุมากกว่า และผลของการรักษามะเร็งที่ปรากฏในหญิงสาวจะมีประสิทธิภาพน้อยกว่า
           
 แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักวิจัยจำนวนหนึ่งได้ออกมากล่าวว่าหญิงสาวส่วนใหญ่มีการตอบสนองที่ดีต่อการรักษา และมะเร็งเต้านมที่พวกเธอเป็นก็มิได้รุนแรงมากไปกว่าผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าแต่อย่างใด นักวิจัยได้ทำการทดลองเพื่อยืนยันความคิดดังกล่าวด้วยการศึกษาจากบันทึกการรักษาทางการแพทย์ของอาสาสมัครจำนวน 47 คน ที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีลงมา ซึ่งเข้ารับการรักษามะเร็งเต้านมในประเทศเยอรมนีในระหว่างปี 1994-2003 

ความสำคัญของการตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยตัวเอง

TAG:

วิธีตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้หญิงทุกคนจำเป็นต้องเรียนรู้ เนื่องจากมันทำให้คุณทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเต้านมของคุณ ด้วยการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ คุณจะทราบถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเต้านมของคุณ และสามารถหาทางแก้ไขได้ทันที่วงที ก่อนที่ความผิดปกติดังกล่าวจะลุกลามจนยากเกินกว่าที่จะเยียวยา

การตัดหน้าอกเพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งชนิดใหม่ ?

TAG:

หากเคยเป็นมะเร็งเต้านม การตัดหน้าอกข้างที่เหลือออกไปจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งชนิดใหม่ได้จริงหรือ

นักวิจัยพบว่า หากผู้หญิงคนใดเคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน ความเสี่ยงในการที่จะเป็นมะเร็งเต้านมอีกข้างหนึ่งจะมีมากกว่าผู้หญิงที่ไม่เคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อนเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากผู้หญิงคนนั้นมาจากครอบครัวที่มีประวัติการเป็นมะเร็งเต้านม ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ผู้หญิงบางคนที่กำลังเป็นมะเร็งเต้านมและมาจากครอบครัวที่มีประวัติการเป็นมะเร็งเต้านมได้ตัดสินใจที่จะตัดเต้านมข้างที่เหลือทิ้ง (Contralateral Mastectomy) ไปเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคให้น้อยลง อย่างไรก็ตาม จนกระทั่งบัดนี้เรายังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดและเชื่อถือได้ถึงความเกี่ยวโยงกันระหว่างการผ่าตัดเต้านมส่วนที่เหลือกับการลดลงของความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งชนิดใหม่แต่อย่างใด

การรักษาโรคมะเร็งเต้านมด้วยวิธี Mastectomy

TAG:

การรักษาโรคมะเร็งเต้านมด้วยวิธี Mastectomy
เป็นระยะเวลาอันยาวนาน ที่การรักษามะเร็งเต้านมด้วยวิธี Mastectomy ได้กลายเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีความหวังที่จะหายขาดและมีชีวิตรอดจากโรคร้ายนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นการรักษามะเร็งด้วยวิธี Mastectomy ดูเหมือนว่าจะเป็นวิธีที่รุนแรง และไม่ว่ามะเร็งเต้านมที่ค้นพบนั้นจะไม่รุนแรงหรืออยู่ในระยะแรก การรักษาก็ดูเหมือนว่าจะไม่ลดความรุนแรงลงเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่ทันสมัยขึ้น Mastectomy ดูเหมือนว่าจะมีความอ่อนโยนมากขึ้น น่ากลัวน้อยลง

Mastectomy
เป็นระยะเวลาอันยาวนาน ที่การรักษามะเร็งเต้านมด้วยวิธี Mastectomy ได้กลายเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีความหวังที่จะหายขาดและมีชีวิตรอดจากโรคร้ายนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นการรักษามะเร็งด้วยวิธี Mastectomy ดูเหมือนว่าจะเป็นวิธีที่รุนแรง และไม่ว่ามะเร็งเต้านมที่ค้นพบนั้นจะไม่รุนแรงหรืออยู่ในระยะแรก การรักษาก็ดูเหมือนว่าจะไม่ลดความรุนแรงลงเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่ทันสมัยขึ้น Mastectomy ดูเหมือนว่าจะมีความอ่อนโยนมากขึ้น น่ากลัวน้อยลง
Mastectomy เป็นวิธีการรักษาที่จะผ่าตัดเอาเต้านมออกไปทั้งหมด แต่จะไม่ผ่าตัดเอา Axillary Lymph nodes หรือกล้ามเนื้อที่อยู่ข้างใต้เต้านมออกไป ในบางครั้งแพทย์จะต้องผ่าตัดต่อมน้ำเหลือง ออกไปด้วย เนื่องจากมันอยู่ภายในเนื้อเยื่อเต้านมที่จะต้องถูกผ่าตัดออกไป Mastectomy เป็นวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยที่เป็น Ductal Carcimoma In Situ หรือโรค DCIS รวมไปจนถึงผู้ป่วยที่ต้องการลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมโดยการผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อเต้านมที่อาจก่อตัวเป็นเนื้อร้ายได้ในภายหลังออกไปให้หมด ในการตัดสินใจเข้ารับการรักษามะเร็งเต้านมด้วยวิธี Mastectomy คุณต้องแน่ใจก่อนว่าคุณเหมาะสมกับการรักษาด้วยวิธีนี้ กล่าวคือคุณสามารถเข้ารับการรักษามะเร็งเต้านมด้วยวิธี Mastectomy หาก
- เชื้อมะเร็งที่พบในเต้านมมีการกระจายตัวมากกว่า 1 ที่
- เต้านมของคุณมีขนาดเล็กและการรักษาด้วย Lumpectomy อาจทำให้เต้านมของคุณเสียรูป
- การฉายรังสีภายหลังการผ่าตัดไม่เหมาะกับคุณ และคุณรู้สึกสะดวกใจมากกว่าที่จะรักษาด้วยวิธี Mastectomy
แต่อย่างไรก็ตาม การรักษามะเร็งเต้านมด้วยวิธี Mastectomy คุณอาจต้องเข้ารับการฉายรังสีด้วยเช่นกัน หากเนื้องอกที่คุณเป็นมีขนาดใหญ่กว่า 5 เซนติเมตร หรือมีต่อมน้ำเหลืองอย่างน้อย 4 ต่อม หรือมะเร็งที่คุณเป็นอยู่มีการกระจายตัวมากกว่า 1 แห่งในเต้านม

Lymph Node Removal (การผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองออกไปบางส่วน)

TAG:

Lymph Node Removal (การผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองออกไปบางส่วน)

ด้วยความทันสมัยของนวัตกรรมในการตรวจหาเชื้อมะเร็ง เชื้อมะเร็งมีแนวโน้มที่จะตรวจพบและรักษาได้ในระยะแรกๆ และทันท่วงที ในขณะที่ความทรมานของผู้ป่วยที่เกิดจากการรักษาจะมีน้อยลงกว่าเดิมมาก ผู้ป่วยจึงมีแนวโน้มที่จะหายขาดจากมะเร็งและมีชีวิตยืนยาวมากขึ้น และไม่รู้สึกย่ำแย่จนต้องถอดใจกลางคันในระหว่างกระบวนการรักษาอย่างที่เคยเป็นมา

การเยียวยามะเร็งเต้านมด้วยวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่

TAG:

การเยียวยามะเร็งเต้านมด้วยวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่

Lumpectomy

เป็นวิธีการรักษามะเร็งเต้านมที่ใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน Lumpectomy ถือว่าเป็นวิธีการผ่าตัดที่มีลักษณะคล้ายกับ Mastectomy ในบางส่วน เนื่องจากมีเนื้อเยื่อบางส่วนของเต้านมถูกตัดออกไป ความแตกต่างระหว่าง Lumpectomy แพทย์จะทำการผ่าตัดเอาเนื้อเยื่อของเต้านมเฉพาะส่วนที่เป็นเนื้องอกหรือส่วนที่เป็นก้อนเนื้อออกไป รวมไปจนถึงเนื้อเยื่อบางส่วนที่เป็นปกติที่อยู่รอบ ๆ เนื้องอกดังกล่าว 

Axillary Dissection การผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองระดับที่ 1 และ 2 ออกไป

TAG:

Axillary Dissection

การผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองระดับที่ 1 และ 2 ออกไป

เนื่องจากความก้าวหน้าทางการแพทย์ในการรักษามะเร็งเต้านม และข้อมูลทางการแพทย์ที่ทันสมัยจำนวนมากที่ให้บริการผู้ป่วยในปัจจุบันผู้ป่วยจึงมีส่วนร่วมมากขึ้นในการทำการตัดสินใจว่าเขาหรือเธอสะดวกใจที่จะเข้ารับการรักษาในแบบที่แพทย์ผู้ให้การรักษาแนะนำหรือไม่ ซึ่งแตกต่างจากผู้ป่วยในสมัยก่อนที่จะเป็นฝ่ายทำตามคำสั่งของแพทย์โดยไม่มีโอกาสได้กำหนดวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเองได้เลย

อาการเจ็บปากและคอ จากการรักษามะเร็งเต้านม

TAG:


อาการเจ็บปากและคอ จากการรักษามะเร็งเต้านม

การรักษามะเร็งเต้านมด้วยการใช้ยาและสารเคมีอาจทำให้คุณมีอาการเจ็บปากและลำคอ อาการเจ็บปวดดังกล่าวอาจเป็นผลมาจากการติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัสที่ช่องปาก ยาและสารเคมีที่ใช้ในการรักษามะเร็งเต้านมอาจส่งผลทำให้เนื้อเยื่อในช่องปากของคุณแห้ง ระคายเคือง และมีเลือดออก ปากและคอที่เจ็บจะส่งผลกระทบต่อการกินอาหารทำให้คุณรู้สึกระคายเคืองและเจ็บปวดจนไม่อยากจะกินอาหารอีกต่อไป

อาการข้างเคียงที่เกิดจากการรักษามะเร็งเต้านม

TAG:

อาการข้างเคียงที่เกิดจากการรักษามะเร็งเต้านม

คลื่นไส้อาเจียน

ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยมีอาการข้างเคียงหลังจากเข้ารับการรักษามะเร็งเต้านม ความรุนแรงของอาการเหล่านี้จะแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละคน บางรายอาจมีอาการไม่รุนแรงและสามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาหรือการบำบัดด้วยทางเลือกอื่น ๆ ในขณะที่บางรายอาจมีอาการรุนแรงจนต้องเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อหาวิธีรักษาที่เหมาะสมต่อไป อาการข้างเคียงที่เกิดจากการรักษาเหล่านี้อาจส่งผลให้ผู้ป่วยประสบความยากลำบากในการกินอาหาร หากปล่อยอาการเหล่านี้ไว้โดยไม่หาวิธีรักษาที่เหมาะสม ร่างกายของผู้ป่วยจะได้รับสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นไม่เพียงพอจนส่งผลให้ร่างกายโดยรวมฟื้นตัวได้ช้า อ่อนเพลียหมดเรี่ยวแรงได้

การลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมด้วยยาหรือสารเคมี

TAG:

การลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมด้วยยาหรือสารเคมีและการผ่าตัด

แพทย์อาจแนะนำผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมสูง ให้เข้ารับการรักษาด้วยยาหรือสารเคมีเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าวให้น้อยลง โดยยาที่ใช้จะมีคุณสมบัติในการลดความสามารถของฮอร์โมนเอสโตรเจนในการกระตุ้นการเติบโตของเซลล์เต้านมให้มีน้อยลง จากการทดลองทางการแพทย์ นักวิทยาศาสตร์พบว่า Tamoxifen มีฤทธิ์ในการลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมครั้งแรกในผู้หญิงที่มีความเสี่ยงสูงและลดความเสี่ยงในการกลับมาเป็นมะเร็งชนิดที่มีตัวรับฮอร์โมนเป็นบวก ในผู้ที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมแล้ว ซึ่งคุณสมบัติของ Tamoxifen ในการลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมในผู้หญิงที่มีความเสี่ยงสูงได้รับการยอมรับจาก U.S.Food and Drug Administration (FDA) เรียบร้อยแล้ว แต่การที่จะเข้ารับ Tamoxifen เพื่อลดความเสี่ยงที่มีอยู่ ควรขึ้นอยู่กับระดับของความเสี่ยงที่คุณเป็นอยู่ และการวินิจฉัยของแพทย์เป็นสำคัญ

วิธีตรวจหามะเร็งเต้านมสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

TAG: ,

วิธีตรวจหามะเร็งเต้านมสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

เนื่องจากผู้หญิงทุกคนมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม แต่ผู้หญิงทุกคนก็สามารถช่วยตัวเองให้ห่างไกลจากการเป็นมะเร็งเต้านม ด้วยการตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยตนเอง ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องรู้จักวิธีตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยตนเองอย่างถูกต้อง เพื่อตรวจหาสัญญาณอันตรายของมะเร็งเต้านมในระยะแรก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมสูง 

พันธุกรรมทำให้เรามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านมสูงได้อย่างไร

TAG:

พันธุกรรมทำให้เรามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านมสูงได้อย่างไร

นักวิจัยพบว่า ผู้ที่มาจากครอบครัวที่มีประวัติการเป็นมะเร็งเต้านมไม่ว่าจะเป็นมาจากฝ่ายของพ่อหรือฝ่ายแม่จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมสูงกว่าคนอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคนคนนั้นมาจากครอบครัวที่สมาชิกฝ่ายหญิงเป็นมะเร็งเต้านมก่อนอายุ 50 ปี หรือเป็นมะเร็งที่เต้านมทั้งสองข้าง หรือเป็นมะเร็งรังไข่

การเยียวยามะเร็งเต้านม ด้วยวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่

TAG:

การเยียวยามะเร็งเต้านม ด้วยวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่

Surgery

ในสมัยก่อน โรคมะเร็งอาจเป็นหนึ่งในโรคที่ผู้คนต่างหวาดกลัวกันมากที่สุด มีคนจำนวนไม่น้อยที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งต้องจบชีวิตลงด้วยความทุกข์ทรมานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ในปัจจุบันด้วยความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์ เราได้ค้นพบวิธีช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมากจากโรคร้ายนี้แล้ว ดูเหมือนว่าเมื่อเวลาผ่านไปเราจะยิ่งค้นพบวิธีรักษาที่มีประสิทธิภาพที่ส่งผลกระทบต่อตัวผู้ป่วยน้อยลงมากขึ้นเท่านั้น จากการศึกษาพบว่า การรักษามะเร็งเต้านมคือการเยียวยาเต้านมที่เป็นมะเร็งให้ทั่วทุกส่วน ซึ่งวิธีการเยียวยาดังกล่าวสามารถทำได้ 2 วิธี ได้แก่ การผ่าตัดเต้านมทั้งหมดออกไป หรือการผ่าตัดเอาเฉพาะเนื้อเยื่อส่วนที่เป็นมะเร็งออกไปแล้วรักษาเนื้อเยื่อเต้านมส่วนที่เป็นปกติเอาไว้

8 ขั้นตอนในการดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งเต้านม

TAG: ,

โรคมะเร็งเต้านม โรคอันตราย ที่ผู้หญิงอย่างเราต้องระวัง ไม่แพ้มะเร็งปากมดลูก สาเหตุของมะเร็งเต้านม  เกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่ ปัจจัยทางพันธุกรรม ปัจจัยด้าน สิ่งแวดล้อม การรับประทานอาหารประเภทไขมันสูง ฮอร์โมนเพศหญิง บุหรี่ และการไม่ออกกำลังกาย สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงเป็นมะเร็งเต้านม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตอนอายุ 40-50 ปี เพราะช่วงนี้ฮอร์โมนแปรปรวน หรือถ้าผู้หญิงคนไหนมีญาติสายตรง เช่น ย่า ยาย แม่ ป้า เป็นมะเร็ง ก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคนี้สูงถึง 5 เท่าตัว เพื่อป้องกันไว้ก่อนมาตามแก้ทีหลัง ต้องใส่ใจ สิ่งต่อไปนี้

อาการข้างเคียงที่เกิดจากการรักษามะเร็งเต้านม: อาการเจ็บปากและคอ

TAG: ,

การรักษามะเร็งเต้านมด้วยการใช้ยาและสารเคมีอาจทำให้คุณมีอาการเจ็บปากและลำคอ อาการเจ็บปวดดังกล่าวอาจเป็นผลมาจากการติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัสที่ช่องปาก ยาและสารเคมีที่ใช้ในการรักษามะเร็งเต้านมอาจส่งผลทำให้เนื้อเยื่อในช่องปากของคุณแห้ง ระคายเคือง และมีเลือดออก ปากและคอที่เจ็บจะส่งผลกระทบต่อการกินอาหารทำให้คุณรู้สึกระคายเคืองและเจ็บปวดจนไม่อยากจะกินอาหารอีกต่อไป

หากคุณมีอาการเจ็บปาก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสั่งยาที่สามารถทาลงบนส่วนที่มีอาการเพื่อลดอาการเจ็บปวดให้น้อยลง อย่าหาซื้อยามาใช้เองจนกว่าแพทย์จะตรวจสภาพปากและลำคอของคุณเสียก่อน ใช้ขี้ผึ้งทาริมฝีปากที่แห้งเพื่อรักษาความชุ่มชื้นและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเรียวปาก และหากช่องปากของคุณแห้งมาก แพทย์บางคนจะสั่งยาที่ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำลายในปากให้มากขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อคุณมีอาการเจ็บปากและลำคอให้ทำตามคำแนะนำต่อไปนี้

อาการข้างเคียงที่เกิดจากการรักษามะเร็งเต้านม

TAG:

คลื่นไส้อาเจียน

ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยมีอาการข้างเคียงหลังจากเข้ารับการรักษามะเร็งเต้านม ความรุนแรงของอาการเหล่านี้จะแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละคน บางรายอาจมีอาการไม่รุนแรงและสามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาหรือการบำบัดด้วยทางเลือกอื่น ๆ ในขณะที่บางรายอาจมีอาการรุนแรงจนต้องเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อหาวิธีรักษาที่เหมาะสมต่อไป อาการข้างเคียงที่เกิดจากการรักษาเหล่านี้อาจส่งผลให้ผู้ป่วยประสบความยากลำบากในการกินอาหาร หากปล่อยอาการเหล่านี้ไว้โดยไม่หาวิธีรักษาที่เหมาะสม ร่างกายของผู้ป่วยจะได้รับสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นไม่เพียงพอจนส่งผลให้ร่างกายโดยรวมฟื้นตัวได้ช้า อ่อนเพลียหมดเรี่ยวแรงได้

วิธีลดความเสี่ยง ต่อการเป็นมะเร็งเต้านม ตอนที่ 3

TAG:


วิธีลดความเสี่ยง ต่อการเป็นมะเร็งเต้านมสำหรับผู้ที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน

-           เอาใจใส่อาหารการกินในแต่ละมื้อ
อาหารที่ดีไม่เพียงแต่จะช่วยบำรุงรักษาและฟื้นฟูร่างกายในคนที่มีร่างกายปกติเท่านั้น. แต่ยังช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคในผู้ป่วยที่กำลังเผชิญกับโรคร้าย อย่างเช่นโรคมะเร็งเต้านม ด้วยเช่นกัน จากการวิจัยถึงความเสี่ยงในการกลับมาเป็นมะเร็งเต้านมอีกครั้ง หรือความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมชนิดใหม่ ในผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือนที่เป็นมะเร็งเต้านมพบว่า อาหารไขมันต่ำมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการกลับมาเป็นมะเร็งเต้านมอีกครั้ง การทดลองชิ้นนี้เป็นการทดลองชิ้นแรกที่แสดงให้เห็นว่า การกินอาหารบางอย่างสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการกลับมาเป็นมะเร็งเต้านมอีกครั้งให้ลดน้อยลงไปได้

วิธีลดความเสี่ยง ต่อการเป็นมะเร็งเต้านม ตอนที่ 2

TAG:

วิธีลดความเสี่ยง ต่อการเป็นมะเร็งเต้านมสำหรับผู้ที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน

    -  เข้ารับการบำบัดด้วยฮอร์โมน
นอกจากการเข้ารับการบำบัดด้วยวิธีที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว แพทย์อาจแนะนำผู้ที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อนให้เข้ารับการบำบัดด้วยสารเคมีและฮอร์โมน หน้าที่หลักของฮอร์โมนหรือสารเคมีที่ใช้ในการบำบัดผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมสูงคือ การช่วยลดความเสี่ยงของการกลับมาอีกครั้งของมะเร็งเต้านมให้น้อยลง การได้รับการกระตุ้นจากฮอร์โมนเอสโจรเจน เป็นเวลานาน จะทำให้เซลล์เต้านมมีการเติบโตที่ผิดปกติจนกลายเป็นมะเร็งเต้านมได้ในที่สุด Aromatase Inhibitor ซึ่งเป็นหนึ่งในสารเคมีที่แพทย์นำมาใช้ในการบำบัดจะทำหน้าที่ในการขัดขวางการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีต่อเซลล์ ทำให้เซลล์ไม่ได้รับการกระตุ้นมากจนเกินไป ช่วยลดปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ร่างกายผลิตขึ้นให้มีน้อยลง

วิธีลดความเสี่ยง ต่อการเป็นมะเร็งเต้านม ตอนที่ 1

TAG:


วิธีลดความเสี่ยง ต่อการเป็นมะเร็งเต้านมสำหรับผู้ที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน

หากคุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม คุณจะมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งชนิดใหม่สูงกว่าผู้หญิงทั่วไปที่ไม่เป็นมะเร็ง ความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งชนิดใหม่มิได้หมายถึงการย้อนกลับมาเป็นมะเร็งเต้านมในแบบที่คุยเคยเป็นแล้วอีกครั้งหนึ่ง หากแต่เป็นมะเร็งชนิดใหม่ที่มีความแตกต่างกันออกไปซึ่งความเสี่ยงดังกล่าวจะอยู่ที่ร้อยละ 1 ต่อปี หมายความว่าเมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี ความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งชนิดใหม่ของคุณจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10 หากกล่าวอีกอย่างก็คือ ในจำนวนผู้หญิง 100 คนที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน ผู้หญิงจำนวน 10 คนจะเป็นมะเร็งเต้านมชนิดใหม่ภายใน 10 ปี

โรคมะเร็งเต้านม: วิธีลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมของบุคคลทั่วไป ตอนที่ 4

TAG:

โรคมะเร็งเต้านม: วิธีลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมของบุคคลทั่วไป ตอนที่ 4

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

นักวิจัยพบว่า การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงในการกลับมาเป็นมะเร็งเต้านม หรือการเป็นมะเร็งเต้านมชนิดใหม่ให้น้อยลง นักวิจัยชี้ว่า การออกแรงทำกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอหลังจากการเป็นมะเร็งเต้านมจะทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตยืนยาวมากขึ้น จากการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านมจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเดินด้วยความเร็วที่คงที่เป็นเวลา 3-4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์


มะเร็งเต้านม: วิธีลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมของบุคคลทั่วไป ตอนที่ 3

TAG:

โรคมะเร็งเต้านม: วิธีลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมของบุคคลทั่วไป ตอนที่ 3

หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจน, โปรเจสเตอโรน และสารปราบศัตรูพืช
โรคมะเร็งเต้านม: จากการวิจัยพบว่า ผู้ที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อน ไม่เหมาะที่จะเข้ารับการบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทนเมื่อหมดประจำเดือน เนื่องจากการวิจัยจำนวนมากพบว่า การได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเป็นเวลาหลายปี จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมให้มีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่มีงานวิจัยชิ้นใดออกมายืนยันถึงความเกี่ยวข้องกันระหว่างการเข้ารับการบำบัดด้วยฮอร์โมนดังกล่าว กับการเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมก็ตาม แต่นักวิจัยส่วนใหญ่ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ประโยชน์ที่ผู้ป่วยจะได้รับจากการบำบัดด้วยฮอร์โมนอาจเทียบไม่ได้กับผลข้างเคียง และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากมัน


วิธีลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมของบุคคลทั่วไป ตอนที่ 2

TAG:

วิธีลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมของบุคคลทั่วไป ตอนที่ 2

ใช้ฮอร์โมนให้น้อยลง

การใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนติดต่อกันเป็นเวลานานจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมให้มีมากขึ้น. เพื่อที่จะปลอดภัยจากความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมอันเกิดจากการใช้ฮอร์โมน คุณจำเป็นต้องลดหรืองดการรับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่จะเข้าสู่ร่างกายให้น้อยลง เช่น การลดน้ำหนักส่วนเกิน เนื่องจากเซลล์ไขมันส่วนเกินจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มากเกินความจำเป็นออกมา ทำให้เซลล์เต้านมถูกกระตุ้นให้มีการเจริญเติบโตที่มากเกินไป ซึ่งการเติบโตนี้หากมากเกินไปอาจนำไปสู่การเป็นมะเร็งเต้านมได้ในที่สุด เมื่อเราสามารถควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยและคงที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะถูกผลิตออกมาน้อยลง

วิธีลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมของบุคคลทั่วไป ตอนที่ 1

TAG:


วิธีลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมของบุคคลทั่วไป ตอนที่ 1

เมื่อเราทราบถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านมแล้ว การเอาใจใส่ต่อปัจจัยดังกล่าวไม่เพียงแต่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็งเต้านมเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมของคุณอีกด้วย

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม ที่สามารถควบคุมได้และควบคุมไม่ได้

TAG:

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม ที่สามารถควบคุมได้และควบคุมไม่ได้

เป็นความจริงที่ว่าทุกคนต้องการมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงและปรารถนาที่จะหลีกห่างจากอาการเจ็บไข้ได้ป่วยให้ได้มากที่สุดหากเป็นไปได้ และเช่นเดียวกันผู้หญิงทุกคนก็ปรารถนาที่จะหลีกไกลจากมะเร็งเต้านมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พวกเธอปรารถนาที่จะรู้ถึงปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมเพื่อว่าจะได้หาวิธีป้องกันที่ถูกต้อง

การได้รู้ถึงความเสี่ยงหรือปัจจัยที่จะเอื้อให้เกิดโรคมะเร็งเต้านม ทำให้ผู้หญิงที่ไม่เคยเป็นมะเร็งเต้านมมาก่อนสามารถหาทางป้องกันได้อย่างถูกต้อง รวมไปจนถึงในรายที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมก่อนก็จะสามารถหาทางหลีกเลี่ยงที่จะกลับมาเป็นอีกครั้ง และป้องกันการพัฒนาขึ้นของมะเร็งชนิดอื่น ๆ ได้อีกด้วย เราสามารถแบ่งปัจจัยในการเกิดมะเร็งเต้านมออกเป็น 2 กลุ่มดังต่อไปนี้

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมที่สามารถควบคุมได้

ปัจจัยเสี่ยที่สามารถควบคุมได้เป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อการเกิดมะเร็งเต้านมรวมไปจนถึงโรคภัยต่าง ๆ และเป็นปัจจัยที่คุณสามารถควบคุมหรือปรับปรุงเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคให้น้อยลงได้ นักวิจัยพบว่าไม่มีวิธีป้องกันอันใดที่ดีพร้อมที่จะป้องกันคุณจากมะเร็งเต้านมได้เลย แต่อย่างไรก็ดียังมีบางวิธีที่จะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงให้น้อยลงซึ่งปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวได้แก่

      - อาหารการกิน
      - น้ำหนักตัว
      - การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
      - สภาพสิ่งแวดล้อม
      - การออกกำลังกาย
      - การสูบบุหรี่
      - การบำบัดด้วยการใช้ฮอร์โมนทดแทน ในผู้หมดประจำเดือนเป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปี

การจะทำการพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม รวมไปจนถึงโรคต่าง ๆ คุณจำเป็นต้องทำความเข้าใจถึงปัจจัยแต่ละปัจจัยที่จะทำให้คุณเสี่ยงต่อการเป็นโรค ความสำคัญของปัจจัยที่มีต่อคุณภาพชีวิตของคุณและวิธีที่ได้ผลที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม การควบคุมหรือปรับปรุงปัจจัยเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อาจเป็นสิ่งที่ทำได้ยากสำหรับใครหลายคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่เคยชินกับการกินอาหารตามใจ ละเลยการออกกำลังกาย,สูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ แต่เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมและเพื่อสุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้น พึงระลึกอยู่เสมอว่าการเปลี่ยนแปลงจะทำให้คุณภาพชีวิตของคุณดีขึ้น เพียงใช้ความพยายามมากขึ้นอีกสักนิด ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงในชีวิตประจำวันของคุณเสียใหม่ คุณจะพบว่าผลลัพธ์ที่คุณได้คุ้มค่ากับความพยายามที่คุณใช้ไปยิ่งนัก
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมที่ควบคุมไม่ได้

ปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้คือปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดมะเร็งเต้านมที่คุณไม่สามารถควบคุมหรือปรับปรุงได้ เนื่องจากเป็นปัจจัยภายในที่ร่างกายของคุณกำหนดขึ้นมา อย่างไรก็ตามการได้ทำความเข้าใจถึงปัจจัยเสี่ยงที่มีจะทำให้คุณสามารถปรับตัวเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่จะเกิดโรคได้ดียิ่งขึ้น

     1.ประวัติการเป็นมะเร็งเต้านมของแต่ละบุคคล
     2.ประวัติการเป็นมะเร็งเต้านมของคนในครอบครัว
     3.การตั้งครรภ์
     4.การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเต้านม
     5.เชื้อชาติ
     6.การฉายรังสีเพื่อรักษาโรค
     7.การเปลี่ยนแปลงทางตัวกำหนดลักษณะทางพันธุกรรมหรือยีนส์
     8.อายุ
     9.การมีประจำเดือนของแต่ละบุคคล
   10.ความหนาแน่นของทรวงอก
   11.การใช้ฮอร์โมนบางชนิด


บทความมะเร็งเต้านมที่เกี่ยวข้อง